เชื่อว่าเรื่องของการลดน้ำหนักเป็นสิ่งที่ใครหลายคนจะต้องให้ความสำคัญกันมากแน่นอน โดยเฉพาะสาว ๆ ที่เป็นกังวลกับเรื่องของน้ำหนักมากเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าน้ำหนักตัวสามารถส่งผลต่อภาพลักษณ์ได้เลยนั่นเอง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แต่ละคนจะพยายามหาวิธีการลดน้ำหนักมาทำกันอยู่บ่อย ๆ โดยวิธีการลดน้ำหนักในปัจจุบันนี้ก็เรียกได้ว่ามีความหลากหลายมาก หนึ่งในนั้นก็คือการลดน้ำหนักด้วยการกินคีโต ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการลดน้ำหนักยอดนิยมที่ผู้คนไม่น้อยเลยบอกว่าช่วยให้น้ำหนักลงได้จริง แต่ทั้งนี้การกินคีโตก็อาจจะส่งผลให้มีอาการไขขึ้นมาได้ แล้ว อาการไข้ขึ้นจากการกินคีโต คืออะไร ? ไข้คีโต กี่วันหาย มาทำความเข้าใจกัน
ไข้คีโต (Keto flu) คืออะไร ?
Keto Flu หรือที่เรียกกันว่า ไข้คีโต คือ ภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากที่เริ่มกินคีโตแล้ว โดยส่วนใหญ่แล้วจะพบว่าอาการของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกันออกไป รวมถึงความรุนแรงของอาการที่เป็นด้วย สำหรับการกินคีโตนั้นก็มีหลักการที่คล้ายคลึงกับการกินแบบแอตกิ้นส์ (Atkins Diet) และการกินแบบพร่องแป้ง (Low-Carb Diet) เนื่องจากว่าจะเป็นการเน้นไปที่เรื่องของการกินอาหารที่มีไขมันสูง และจะต้องลดอาหารจำพวกแป้งให้น้อยลง นอกจากนั้นแล้วก็จะเน้นไปที่เรื่องของการกินโปรตีนในปริมาณที่เหมาะสมด้วย ซึ่งจะเป็นการบังคับให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตสิสนั่นเอง และภาวะนี้จะทำให้ตับนำเอาคีโตนมาใช้เป็นพลังงานแทน ซึ่งก่อนที่เริ่มทำควรจะศึกษาถึงข้อดีและข้อเสียของการกินคีโตไว้ก่อนด้วย
อาการของไข้คีโต และเป็นกี่วันหาย
ในส่วนของอาการไข้คีโตนั้น ปัจจุบันนี้ยังไม่มีการระบุออกมาอย่างแน่ชัดว่าอาการของไข้คีโตเป็นอย่างไรบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้ว อาการไข้ขึ้นจากการกินคีโต มักจะคล้ายกับการเป็นไข้หวัด และในบางคนก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์เกิดขึ้นได้ด้วย สำหรับอาการไข้คีโตที่เกิดขึ้นนี้ก็มักอยู่เพียงชั่วคราวหรือในบางรายก็อาจจะมีอาการนานประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วหลังจากนั้นอาการก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น ซึ่งอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเป็นไข้คีโตก็สามารถบรรเทาหรือว่ารักษาให้หายได้
สำหรับอาการที่สามารถพบได้บ่อย ๆ ของไข้คีโต มีดังนี้ มีเรี่ยวแรงที่น้อยลงหรืออาจจะไม่มีแรงเลย, รู้สึกอ่อนเพลียมากกว่าปกติ, สมองล้า เกิดความสับสน, คลื่นไส้ อาเจียน, ท้องผูกหรือท้องเสีย, ปวดหัว เวียนศีรษะ, รู้สึกหงุดหงิด และไม่มีสมาธิ, เกิดตะคริว, นอนไม่หลับ, ปวดท้องและปวดตามกล้ามเนื้อ, รู้สึกว่าอยากจะกินของหวาน, มีอารมณ์แปรปรวน, เป็นผื่นคีโต และในบางรายก็อาจจะมีกลิ่นปากเฉพาะตัวเกิดขึ้นด้วย
วิธีป้องกันไข้คีโต
ก่อนหน้านี้ก็คงได้ทราบกันไปแล้วว่าอาการของไข้คีโตเป็นอย่างไร โดยร่างกายของแต่ละคนจะแสดงอาการออกมาได้แตกต่างกันออกไป เมื่อร่างกายเข้าสู่ช่วงภาวะคีโตสิสแล้วก็จะช่วยให้อาการของไข้คีโตบรรเทาลงไปได้ ทั้งนี้ หลายคนก็อาจจะไม่ทราบว่าวิธีการป้องกัน หรือว่าไข้คีโต แก้ยังไงได้บ้าง ในส่วนนี้จึงอยากจะนำเอาวิธีการที่จะช่วยร่างกายให้ดีขึ้นได้มาให้ทราบกัน ซึ่งมีวิธีการดังต่อไปนี้
- ดื่มน้ำเป็นประจำ เนื่องจากว่าในช่วงที่ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตคีสแล้วก็จะมีการขับน้ำออกมาอย่างรวดเร็วและในปริมาณที่เยอะ เพราะร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตน้อยลงจึงเป็นการทำให้สารไกลโคเจนที่จะทำการกักเก็บน้ำเอาไว้ในร่างกายนั้นลดน้อยลงไปด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งวิธีการที่จะสามารถช่วยได้คือ การดื่มน้ำเป็นประจำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อช่วยบรรเทาอาการของไข้คีโตให้น้อยลงได้
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก เนื่องจากว่าในช่วงแรกของการกินคีโตร่างกายจะเกิดการอ่อนเพลีย แน่นท้อง และเป็นตะคริว จึงควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ ไปก่อน แต่ทั้งนี้ก็ยังสามารถออกกำลังกายได้ด้วยวิธีการเดิม การทำโยคะ หรือว่าการปั่นจักรยานเบา ๆ
- กินแร่ธาตุทดแทน ในการกินคีโตจะทำให้ร่างกายขาดแร่ธาตุที่สำคัญบางอย่างไปได้ และเมื่อขาดแร่ธาตุก็อาจจะทำให้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้เลย เมื่อเป็นเช่นนี้จึงควรกินอาหารเสริมหรือวิตามินเข้าไปแทนที่แร่ธาตุที่ขาดไปนั่นเอง
- พักผ่อนอย่างเพียงพอ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เนื่องจากว่าการนอนไม่เพียงพอจะส่งผลต่อระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ที่จะเพิ่มสูงขึ้น สิ่งนี้จะส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์และอาการของไข้คีโต ดังนั้น ในช่วงที่เป็นไข้คีโตก็ควรงดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนไปก่อน เพื่อเป็นการช่วยหลีกเลี่ยงอาการนอนไม่หลับได้ รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการอดนอนด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้เกิดรูปแบบการนอนที่ดี
- กินไขมัน ไฟเบอร์ และคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่เหมาะสม โดยในการกินคีโตควรจะเน้นไปที่การกินอาหารที่มีไขมัน และควรลดการกินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลงด้วย รวมถึงควรจะเพิ่มการกินอาหารที่เป็นโปรตีนเข้าไปด้วย เพื่อเป็นการช่วยให้ร่างกายสามารถปรับตัวได้ดีในการกินคีโต และยังเป็นการช่วยลดความรุนแรงของไข้คีโตได้ด้วย นอกจากนั้นแล้ว ก็ควรจะต้องกินผักใบขียวที่มีแป้งต่ำเข้าไปด้วย ซึ่งก็จะสามารถช่วยลดอาการท้องผูกได้ ทั้งนี้ ทุก ๆ อย่างจะต้องกินในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น
ผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการกินคีโต
การกินคีโตสามารถทำให้เกิดอาการไข้คีโตขึ้นได้ แม้จะเป็นหลักการกินที่ปลอดภัยและผู้คนที่กินส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม การกินคีโตที่จะต้องจำกัดปริมาณของคาร์โบไฮเดรต และมีการเพิ่มการกินไขมันให้มากขึ้นนั้น ก็สามารถส่งผลกระทบอื่น ๆ ต่อร่างกายได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งผลข้างเคียงหรือว่าผลกระทบอื่นที่เกิดขึ้นได้จากการกินคีโต มีดังต่อไปนี้
- การขาดสารอาหาร เนื่องจากว่าในการกินคีโตจะต้องจำกัดปริมาณของการกินอาหารบางประเภทเอาไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะส่งผลทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่สำคัญจากอาหารบางอย่างไม่เพียงพอ หลังจากนั้นก็อาจจะให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้
- การขาดน้ำและแร่ธาตุ โดยคีโตนที่ร่างกายได้สร้างขึ้นมาหลังจากกินคีโตแล้วเข้าสู่กระบวนการคีโตสิสนั้น ก็จะทำให้ร่างกายมีการขับคีโตนที่สร้างมาออกไปผ่านทางปัสสาวะ เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้ที่กินคีโตจึงจะปัสสาวะบ่อยมากกว่าปกติ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะขาดน้ำและแร่ธาตุได้ อย่างไรก็ตามแร่ธาตุบางชนิดก็มีความสำคัญต่อการทำงานของหัวใจและไตด้วย หากว่ามีการดื่มน้ำที่ไม่เพียงพอ และไม่ได้หาแร่ธาตุมาทดแทน ก็จะส่งผลทำให้ไตเกิดความเสียหายขึ้นแบบเฉียบพลันได้ หรืออาจจะเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- โยโย่เอฟเฟกต์ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จากการผัวผวนของน้ำหนัก โดยน้ำหนักตัวจะขึ้นลงสลับกันไป ในเรื่องนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ในผู้ที่มีการกินคีโตแบบไม่ต่อเนื่อง จึงทำให้น้ำหนักตัวมีการลดลงแล้วเพิ่มกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งสิ่งนี้อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กลายเป็นโรคอ้วนหรือว่าโรคเบาหวานตามมาได้เลย
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็คงเป็นสิ่งที่สามารถช่วยทำให้เข้าใจกันได้มากยิ่งขึ้นแล้วว่า ไข้คีโตคืออะไร มีอาการอย่างไร และมีวิธีการป้องกันหรือว่าบรรเทาอาการของไข้ได้อย่างไรบ้าง รวมไปถึงยังมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อลดน้ำหนักด้วยคีโต แน่นอนว่าวิธีการลดน้ำหนักด้วยคีโตเป็นวิธีการที่ดีและช่วยให้น้ำหนักลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การที่จะสามารถทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะจะต้องทำให้ถูกต้องตามหลักการ หากสามารถทำได้ก็จะช่วยให้น้ำหนักลดลงและเป็นการลดน้ำหนักที่ปลอดภัย ไม่ส่งผลเสียอื่น ๆ ตามมานั่นเอง ดังนั้น ก่อนการกินคีโตก็ควรศึกษาข้อมูลให้ดีด้วย
อ้างอิง
- ทำความรู้จักกับ Keto Flu และวิธีแก้ไข. https://www.pobpad.com/ทำความรู้จักกับ-keto-flu-และวิธ