ยาลดน้ําหนัก คืออะไร ปัจจุบันนี้ทำไมหลายคนถึงนิยมใช้อยู่? ต้องยอมรับเลยว่าตามท้องตลาดทุกวันนี้ยังคงมียาลดความอ้วนยี่ห้อต่าง ๆ วางขายอยู่มากมายและมันก็ยังเป็นทางเลือกในการลดน้ำหนักที่หลายคนเลือกใช้อีกด้วย ที่สำคัญการมีน้ำหนักตัวตามเกณฑ์และไม่เป็นโรคอ้วนยังสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ที่อาจตามมาได้ ทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคอื่น ๆ อีกมากมาย แต่สำหรับบางคนที่อาจจะยังไม่กล้าใช้เนื่องจากไม่มั่นใจว่าจะใช้ยาลดน้ำหนักตัวไหนดีจึงจะเห็นผล หรือต้องกินอย่างไรถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี? วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกเรื่องเกี่ยวกับหลักการทำงานของยาลดน้ำหนักและวิธีเลือกยาลดน้ำหนักอย่างไรให้ปลอดภัย เพื่อคลายข้อสงสัยให้คุณกัน
ยาลดน้ำหนัก มีหลักการทำงานยังไง กินแล้วเห็นผลจริงหรือไม่ ?
‘ยาลดน้ำหนัก’ หรือ ‘ยาลดความอ้วน’ ในปัจจุบันนี้มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อตามท้องตลาด ซึ่งแต่ละยี่ห้อนั้นก็จะมีรูปแบบการรับประทานและการทำงานที่ออกฤทธิ์ในการช่วยลดน้ำหนักแตกต่างกันออกไป ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ว่าความต้องการในการลดความอ้วนของคุณเป็นแบบไหน แต่โดยทั่วไปแล้วหลักการทำงานของมันจะเป็นออกเป็น 8 ประเภทดังต่อไปนี้
หลักการลดความอยากอาหาร
หลักการทำงานของยาลดน้ำหนักประเภทนี้จะออกฤทธิ์ที่ประสาทส่วนกลางของร่างกาย โดยส่งผลต่อสัญญาณทางเคมีทำให้ช่วยลดความอยากอาหาร ผู้ที่ใช้ยาประเภทนี้จึงกินได้น้อยลงกว่าที่เคย ส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะให้ยาชนิดนี้แก่ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง เมื่อกินได้น้อยลงและไม่กินจุกจิกทั้งวันทั้งคืนแล้วการลดน้ำหนักของคุณจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลักการบล็อกไขมัน
ยากลุ่มนี้จะมีคุณสมบัติช่วยบล็อกไขมันไม่ให้ร่างกายดูดซึมไขมันเข้าไปได้ เมื่อคุณรับประทานอาหารเข้าไปร่างกายจะทำการบล็อกไขมันและขับออกเป็นของเสีย ซึ่งการทำงานของยาลดน้ำหนักประเภทนี้ถือว่าเป็นการลดน้ำหนักและไขมันในร่างกายได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังไม่ทำให้เสียต่อการเกิดโยโย่เอฟเฟกต์อีกด้วย อาหารเสริมส่วนใหญ่จึงมักมีสารสกัดจากชาเขียวลดน้ำหนัก เพราะมันมีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี แต่หากคุณอยากให้ตัวยาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและเห็นผลมากขึ้นควรควบคุมการกินให้พลังงานแคลอรีเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันด้วย
ยาฮอร์โมนไทรอยด์
อีกหนึ่งตัวยาลดน้ำหนักที่แพทย์มักจะสั่งให้ผู้ป่วยที่มีภาวะพร่องไทรอยด์นั่นก็คือ ‘ยาฮอร์โมนไทรอยด์’ นั่นเอง ซึ่งยาตัวนี้จะช่วยปรับระบบการเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น แต่ผลข้างเคียงของมันก็เยอะเช่นกัน ทั้งกล้ามเนื้อลดลงมากผิดปกติ รวมถึงทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดมีความผิดปกติด้วยเช่นเดียวกัน
ยาขับปัสสาวะ
หลักการทำงานของยาลดน้ำหนักประเภทนี้คือการลดน้ำหนักของน้ำในร่างกายผ่านการปัสสาวะ ซึ่งมันอาจจะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้แต่มันไม่สามารถลดปริมาณไขมันหรือเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ แต่ผลข้างเคียงของมันคืออาจทำให้ร่างกายเกิดอาการอ่อนเพลียจากการขาดเกลือแร่ หรืออวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายเกิดการทำงานผิดปกติขึ้นได้
ยายับยั้งการสลายของไขมัน
ผู้ที่กินยาลดน้ำหนักประเภทนี้เข้าไปตัวยาจะเข้าไปยับยั้งไม่ให้ไขมันในอาหารสลายตัว ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมไขมันเข้าไปได้ ซึ่งตัวยาที่ทางการแพทย์มักจะเลือกใช้คือตัว ‘โอลิทแสตท’
ยาลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
แม้ว่าตัวยาประเภทนี้จะไม่ได้มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้มากนัก แต่มันก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวยาที่ผู้ใช้ยาลดน้ำหนักสามารถรับประทานได้ เนื่องจากตัวยาชนิดนี้มีส่วนช่วยลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระเพาะในขณะที่ใช้ยานั่นเอง
สมุนไพรช่วยลดน้ำหนัก
การใช้สมุนไพรลดความอ้วนก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ผู้บริโภคหลายคนเลือกใช้ในปัจจุบันเพราะมีความเชื่อว่าปลอดภัย แต่สมุนไพรลดน้ำหนักที่ปลอดภัยนั้นต้องไม่มีส่วนประกอบอื่นที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและต้องได้รับการรับรองจาก อย. ก่อน นอกจากนี้หลักการทำงานของสมุนไพรส่วนใหญ่จะช่วยในด้านการเผาผลาญในร่างกายให้ดีขึ้น ไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักแต่อย่างใด
ลอร์คาเซริน (Lorcaserin)
การออกฤทธิ์ของยาประเภทนี้จะส่งผลต่อเคมีที่ช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้รับประทานได้น้อยลงและรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น โดยแพทย์มักจะใช้ยาชนิดนี้ในผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูงเพื่อให้รับประทานอาหารได้น้อยลง
วิธีเลือก ยาลดน้ำหนัก อย่างไรให้ปลอดภัย
ช่วงนี้หลายคนอาจจะสังเกตว่ายาลดน้ำหนักมีการวางขายทั่วไปตามท้องตลาดและตามซูเปอร์มาเก็ตมากมายเต็มไปหมด เหล่าดาราหรือเซเลปคนดังต่างก็เลือกทำแบรนด์ยาลดน้ำหนักกันมากมายเพราะต้องบอกเลยว่านวัตกรรมต่าง ๆ ในปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนาและมีการคิดค้นส่วนผสมที่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคมากขึ้น ไม่อันตรายเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังคงมีบางแบรนด์ที่ผลิตภัณฑ์ยาลดน้ำหนักออกมาไม่ได้มาตรฐานและไม่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคด้วยเช่นกัน มาดูกันว่าหากคุณต้องการเลือกใช้ยาลดน้ำหนักที่ปลอดภัยจะต้องเลือกดูและเลือกซื้อจากอะไรบ้าง
เลือกซื้อยาลดน้ำหนักที่ได้รับการรับรองจาก อย.
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข หรือ อย. เป็นองค์กรที่คอยดูแลและคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เลือกใช้ ซึ่งยาลดน้ำหนักที่มีเครื่องหมาย อย. ก็จะแสดงให้เห็นว่าสินค้าตัวนั้นได้รับการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพสินค้าและความปลอดภัยที่ถูกต้องตามมาตรฐานการผลิตที่องค์กรได้ระบุไว้
เลือกยาลดน้ำหนักที่เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติ
ปัจจุบันนี้มีการคิดค้นและพัฒนาสูตรลดน้ำหนักที่มาจากสารสกัดจากธรรมชาติมากมาย เพราะจริง ๆ แล้วสารสกัดจากธรรมชาติบางอย่างมันก็มีส่วนช่วยด้านการลดความอ้วนและช่วยเรื่องปรับระบบเผาผลาญในร่างกายได้เช่นเดียวกัน แต่บางอย่างอาจหากินได้ยากหรือถ้ากินสด ๆ อาจจะไม่อร่อยผู้พัฒนาจึงได้นำมาอยู่ในรูปแบบยาเพื่อให้รับประทานได้ง่ายขึ้นและหาซื้อได้ง่าย ยกตัวอย่างสารสกัดจากธรรมชาติที่มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก เช่น ส้มแขก, ถั่วขาว, ชาเขียว, พริกไทยดำ, ลูกพลัม, สาหร่ายทะเลเคลป์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
ผลิตภัณฑ์ยาลดน้ำหนักแน่นอนว่าเมื่อยิ่งได้รับความนิยมก็ยิ่งมักจะมีของปลอมหรือของลอกเลียนแบบขึ้นมาอยู่เสมอ ของเหล่านั้นส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานและอาจมีการปลอมแปลงแพ็กเกจรวมถึงส่วนผสมในตัวยาด้วยทำให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ดังนั้นแล้วหากคุณกำลังมองหายาลดน้ำหนักยี่ห้อใดอยู่ก็ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่ได้มาตรฐาน เช่น ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ Official โดยตรง หากซื้อทางออนไลน์ก็ควรเลือกซื้อจากร้านที่เป็น Official หรือเลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายที่มีใบรับรองชัดเจน
เลือกซื้อยาลดน้ำหนักที่เหมาะสม
หากคุณอยากลดน้ำหนักให้มีความปลอดภัยสูง ควรเลือกยาลดน้ำหนักประเภทที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง เนื่องจากอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่ายาลดความอ้วนแต่ละประเภทมีหลักการทำงานและการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันไป บางตัวช่วยเรื่องการขับถ่าย บางตัวช่วยเรื่องระบบการเผาผลาญ หากคุณเลือกหลักการออกฤทธิ์ที่เหมาะกับตัวเองมันก็อาจช่วยให้การลดน้ำหนักตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อีกด้วย
งดใช้ในสตรีมีครรภ์
ผู้ที่ตั้งครรภ์อยู่รวมถึงผู้ที่ให้นมบุตรไม่ควรใช้ยาลดความอ้วนเป็นอันขาด เนื่องจากการที่น้ำหนักขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีน้ำหนักที่ขึ้นมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนดอาจต้องได้รับการวินิฉัยจากแพทย์เนื่องจากอาจเป็นเบาหวานหรือครรภ์เป็นพิษได้ ทั้งนี้ การรับประทานยาลดความอ้วนด้วยตัวเองอาจส่งผลต่อบุตรในครรภ์ หรือผู้ที่กำลังให้นมบุตรอาจเกิดสารตกค้างในน้ำนมทำให้ทารกอาจได้รับสารเคมีเข้าไปด้วยได้เช่นเดียวกัน
สารต้องห้ามอันตรายใน ยาลดน้ำหนัก ที่ต้องระวัง
ทาง อย. มีการตรวจสอบพบว่ายาลดน้ำหนักบางรายมีการลักลอบใส่สารอันตรายที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผู้บริโภคเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงและบางรายอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งสารอันตรายที่ไม่ควรอยู่ในส่วนผสมของยาลดความอ้วนนั่นก็คือ “ไซบูทรามีน”
ไซบูทรามีน (Sibutramine) เป็นเคมีอินทรีย์ที่ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางโดยตรง ผู้บริโภคจึงมีความรู้สึกที่ไม่ค่อยหิวและอิ่มเร็วขึ้น แต่ผลข้างเคียงของมันก็ส่งผลกระทบต่อระบบหัวใจและความดันโลหิตได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรับประทานอย่างต่อเนื่องทุกวัน ยิ่งทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ยกตัวอย่างเช่น เกิดอาการเวียนหัว รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน ท้องผูก ปวดตัว ปวดหัว ปากแห้ง คอแห้ง และหากรุนแรงก็อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้
สารชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มยาที่เรียกว่า Serotonin-Norepinephrine Reuptake Inhibitor ที่จะไปออกฤทธิ์กับสมองส่วน Ventomedial Hypothalamus โดยส่วนของ 5-HT0t จะเข้าไปจับตัวกับ 5- HT 2A/2C Receptor ส่วน NE จะเข้าไปจับตัวกับ Alpha 1 และ Beta 1 Receptors บริเวณ Lateral Hypothalamus มันจึงมีส่วนในการลดความหิวได้ นอกจากนี้ NE ยังกระตุ้น Beta 2 Receptors ที่ Brown Fat ทำให้เกิดการสลายไขมันได้อีกด้วย บางแบรนด์จึงนิยมใส่สารประเภทนี้กัน แต่ผลข้างเคียงของมันอันตรายถึงชีวิตจึงไม่คุ้มที่จะเสี่ยง
หากคุณใช้ยาลดความอ้วนและสังเกตได้ว่าเริ่มอาการข้างเคียงตามข้างต้น อาจสงสัยได้ว่ายายี่ห้อนั้นมีส่วนผสมของ Sibutramine อยู่ ถ้าคุณอยากมั่นใจว่ายาลดความอ้วนที่ใช้นั่นปลอดภัยหรือไม่ควรเช็กเลข อย. ก่อนว่าชื่อผลิตภัณฑ์ตรงกันหรือไม่ หรือเลข อย. หมดอายุหรือยัง ถ้าเริ่มมีอาการข้างเคียงที่รุนแรงขึ้นควรหยุดรับประทานและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะทันที
วิธีกิน ยาลดน้ำหนัก อย่างไรให้ได้ผล
การกินยาลดน้ำหนัก ยังนับว่าเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันเต็มไปด้วยความเร่งรีบ บางคนกลับมาจากทำงานเหนื่อย ๆ ก็ไม่มีเวลาออกกำลังกายและไม่สามารถกินอาหารได้อย่างเป็นเวลา การกินยาลดความอ้วนจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกทางลัดที่ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ แต่บางคนที่กินแล้วไม่เห็นผลอาจจะกินไม่ถูกวิธี ซึ่งวิธีกินยาลดน้ำหนักให้เห็นผลนั้นหลายคนแนะนำให้กินตามวิธีดังต่อไปนี้
เลือกยาลดความอ้วนที่ได้มาตรฐาน
อันดับแรก การกินยาลดความอ้วนให้ได้ผลนั้นตัวสินค้าต้องมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัยสูง ผู้บริโภคอาจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและต้องอย่าลืมตรวจสอบเลข อย. ว่าถูกต้องหรือไม่ มีการต่ออายุแล้วหรือยัง เพราะส่วนใหญ่แล้วผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายรับรองจะมีคุณภาพสูง เมื่อผู้บริโภครับประทานไปแล้วจึงมีความปลอดภัยและช่วยให้เห็นผลจริง
กินตามคำแนะนำบนฉลาก
ยาลดความอ้วนแต่ละยี่ห้อมีรูปแบบการกินที่แตกต่างกันไป บางยี่ห้ออาจให้คุณกินก่อนอาหารหรือบางยี่ห้ออาจจะให้คุณกินหลังอาหารก็ได้ ฉะนั้นแล้วหากอยากกินยาลดความอ้วนให้ได้ผลคุณควรกินตามคำแนะนำบนฉลากว่ากินตอนไหนและกินในปริมาณเท่าไหร่เพื่อให้ยาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ดื่มน้ำตามเยอะ ๆ
การดื่มน้ำให้เยอะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายหลายประการ รวมถึงการดื่มน้ำตามหลังการกินยาลดน้ำหนักด้วยเพราะน้ำจะช่วยดูดซึมตัวยาให้เข้าสู่ร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกินยาในรูปแบบแคปซูลน้ำก็จะช่วยให้ตัวแคปซูลสามารถละลายได้ดีทำให้ตัวยาละลายและเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น โดยผู้หญิงควรดื่มให้ได้วันละประมาณ 2.7 ลิตรต่อวัน (ประมาณ 11 แก้ว) ส่วนผู้ชายควรดื่มวันละประมาณ 3.7 ลิตรต่อวัน (ประมาณ 15 แก้ว)
ห้ามอดอาหาร
สิ่งสำคัญของการลดน้ำหนักให้ได้ผลอีกอย่างหนึ่งก็คือ ‘ห้ามอดอาหาร’ เพราะหลายคนอาจเคยได้ยินคำว่าโยโย่เอฟเฟกต์มาก่อน โดยเอฟเฟกต์ตัวนี้สามารถเกิดขึ้นได้แม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้ยาลดความอ้วนก็ตาม เนื่องจากการที่คุณอดอาหารในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งและหลังจากนั้นมีการกลับมากินตามปกติระบบเผาผลาญในร่างกายจะทำงานไม่ปกติ ทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญพลังงานได้ดี น้ำหนักตัวจึงมีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและจะลดลงได้ยาก การที่คุณใช้ยาลดน้ำหนักเป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่งแล้วจึงไม่จำเป็นต้องอดอาหารเพิ่มเติมอีกและควรกินให้ครบ 3 มื้อ
ไม่ควรกินยาหลายตัวผสมกัน
การที่คุณใช้ยาลดความอ้วนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งแล้ว ไม่ควรกินยาอื่น ๆ หรือใช้ยาที่มีผลต่อการลดน้ำหนักซ้ำไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์ อาหารเสริม สมุนไพรลดน้ำหนัก หรือกาแฟลดน้ำหนักก็ตาม เนื่องจากร่างกายอาจได้รับสารสกัดในรูปแบบนี้มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการ Over Dose และทำให้ช็อกได้ ควรเลือกใช้ยาลดน้ำหนักในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเท่านั้น
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
บางครั้งผลข้างเคียงของยาลดความอ้วนก็อาจทำให้บางคนเกิดอาการตาค้างและนอนไม่หลับได้ เพราะร่างกายมีการเผาผลาญพลังงานมากขึ้นแต่บางคนก็ไม่ได้เกิดผลข้างเคียงตรงนี้ สิ่งสำคัญคือต้องมีการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยนอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง
ขยับร่างกายเป็นประจำ
การใช้ยาลดน้ำหนักเพียงอย่างเดียวแต่ไม่มีการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารเลย มันอาจทำให้การลดความอ้วนของคุณไม่สามารถทำได้อย่าเต็มประสิทธิภาพ แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนัก ๆ หรือเลือกกินแต่อาหารคลีน เพียงแค่ขยับร่างกายเยอะ ๆ ในแต่ละวันมันก็มีส่วนช่วยได้ แต่หากคุณอยากให้ร่างกายดูฟิตและกระชับมากขึ้นการเล่นเวทหรือคาร์ดิโอก็สามารถช่วยได้และทำให้รูปร่างดูกระชับได้ไวมากขึ้นด้วย
เชื่อได้เลยว่าหากคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้วมันจะช่วยคลายความสงสัยของคุณได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ที่สำคัญต้องยอมรับเลยว่า ยาลดน้ําหนัก ในปัจจุบันนี้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคมากมายหลายยี่ห้อ หากคุณรู้แล้วว่าต้องกินยาลดความอ้วนแบบไหนถึงจะปลอดภัยและกินอย่างไรถึงได้ผลก็สามารถลองหาแบรนด์ที่ถูกใจคุณและไม่มีสารต้องห้ามมาลองกันได้เลย แต่ที่สำคัญก็อย่าลืมรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยเพื่อให้การลดน้ำหนักของคุณตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
อ้างอิง :
- ยาลดความอ้วน. https://th.wikipedia.org/wiki/ยาลดความอ้วน
- ยาลดความอ้วน ปลอดภัยหรือไม่ ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย. https://www.pobpad.com/ยาลดความอ้วน-ปลอดภัยหรื
- ไซบูทรามีน ภัยร้ายจากยาลดความอ้วน. https://www.pobpad.com/ไซบูทรามีน-ภัยร้ายจากยา
