จะรู้ได้ไงว่าเข้าคีโตแล้ว ? สัญญาณเตือนว่าร่างกายเริ่มลดน้ำหนัก รู้ไว้ก่อนทำคีโต

จะรู้ได้ไงว่าเข้าคีโตแล้ว ? สัญญาณเตือนว่าร่างกายเริ่มลดน้ำหนัก รู้ไว้ก่อนทำคีโต

หัวข้อบทความ

การลดน้ำหนักด้วยวิธีการกินคีโตเป็นหนึ่งในวิธีที่กำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบันนี้ โดยการกินคีโตเป็นการให้กินอาหารที่มุ่งเน้นไปในเรื่องของการลดกินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล แต่ทั้งนี้จะต้องเน้นไปที่การกินอาหารจำพวกไขมันแทน เพื่อที่จะเป็นการช่วยให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตสิส ซึ่งภาวะนี้จะช่วยให้ร่างกายมีการนำเอาไขมันมาใช้เป็นพลังงานหลักแทนคาร์โบไฮเดรต อย่างไรก็ตาม จะรู้ได้ไงว่าเข้าคีโตแล้ว ? สัญญาณเตือนว่าร่างกายเริ่มลดน้ำหนักด้วยวิธีการคีโต ในบทความนี้จะมาช่วยอธิบายให้ได้เข้าใจกันมากขึ้น


ภาวะคีโตสิส คืออะไร

จะรู้ได้ไงว่าเข้าคีโตแล้ว ภาวะคีโตสิส คืออะไร

ก่อนที่จะได้ไปทำความเข้าใจกันว่า จะรู้ได้ไงว่าเข้าคีโตแล้ว ? กินคีโตถูกวิธีหรือไม่ หรือมีสัญญาณเตือนว่าร่างกายเริ่มลดน้ำหนักได้เริ่มต้นขึ้น ในส่วนนี้ก็จะมาอธิบายให้ได้เข้าใจกันมากขึ้นถึงเรื่องของการเข้าสู่ภาวะคีโตสิสกันก่อนว่าคืออะไร และมีการทำงานอย่างไร โดยการที่ร่างกายจะสามารถเข้าสู่ภาวะคีโตสิสได้นั้น ก็จะต้องเริ่มจากการลดอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตไปก่อน เนื่องจากว่าตามธรรมชาติแล้วร่างกายจะมีการเผาผลาญด้วยการดึงเอากลูโคส หรือว่าน้ำตาลมาใช้เป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย และเป็นการเพิ่มพลังงานให้กับเซลล์ที่อยู่ในร่างกายด้วย 

อย่างไรก็ตาม เมื่อร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตน้อยลงจากการที่จะต้องงด ก็จะทำให้ร่างกายมีปริมาณกลูโคสในร่างกายไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้ในการเผาผลาญ จากสิ่งนี้เองที่ทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตลิส เพราะว่าร่างกายจะมีการดึงเอาไขมันที่สะสมไว้มาใช้ในการเผาผลาญแทน ทั้งนี้ หากว่าในร่างกายมีปริมาณไขมันที่มากเกินไปหรือมีไขมันในเลือดสูง ก็ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคได้หลายโรคเลยทีเดียว

หลังจากที่ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตสิส แล้วตับจะมีการดึงเอากรดไขมันทั้งส่วนที่กินเข้าไป และส่วนที่ร่างกายสะสมเอาไว้มาเปลี่ยนให้เป็นคีโตน แล้วส่งผ่านไปยังกระแสเลือด เพื่อที่จะนำมาใช้เป็นพลังงานให้กับเซลล์ที่อยู่ในร่างกายนั่นเอง โดยคีโตนในร่างกายก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ ได้แก่ Acetone, Acetoacetate และ Beta-hydroxybutyrate (BHB) ทั้งนี้ ก็สามารถที่จะทำการวัดระดับได้ว่าตอนนี้ร่างกายได้เข้าสู่ภาวะคีโตสิสแล้วหรือยัง ซึ่งจะได้จากการวัดปริมาณของสารเหล่านี้นี่เอง


สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณอยู่ในภาวะคีโตสิส

สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณอยู่ในภาวะคีโตสิส

เมื่อได้เข้าใจกันมากขึ้นแล้วว่าภาวะคีโตสิส คืออะไร และมีการทำงานอย่างไรกับร่างกายบ้าง ในส่วนต่อมาก็อยากจะให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของสัญญาณว่าเข้าคีโตแล้ว หรือสัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายเข้าสู่ช่วงของภาวะคีโตสิสแล้ว โดยเมื่อมีการกินคีโตไประยะหนึ่ง หรือผ่านไปประมาณ 3-5 วัน ก็จะทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตสิส ทั้งนี้ เมื่อร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตสิสแล้ว ก็จะส่งผลทำให้มีผลข้างเคียง หรือว่าสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นกับร่างกายตามมา ซึ่งตัวอย่างสัญญาณที่สามารถบ่งบอกได้ว่าอยู่ในช่วงภาวะคีโตสิสแล้วก็มีดังนี้

1. มีกลิ่นปากเฉพาะ

โดยผู้ที่กินคีโตมักจะมีกลิ่นปากที่เฉพาะตัว ซึ่งเมื่อมีการกินคีโตผ่านไปแล้วประมาณ 3-6 สัปดาห์ จะสามารถสังเกตได้เลยว่าผู้ที่กินจะเริ่มมีกลิ่นปากที่เฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กลิ่นปากก็จะมีหลากหลายแบบ บ้างก็บอกว่ามีกลิ่นคล้ายโลหะ บ้างก็ว่ามีกลิ่นคล้ายผลไม้ที่มีรสชาติหวาน ๆ 

2. น้ำหนักลดลง

เนื่องจากว่าการกินคีโตเป็นการลดกินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตลง จึงสามารถทำให้น้ำหนักลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้มีงานวิจัยไม่น้อยเลยเผยว่า หลังจากที่กินคีโตผ่านไปสัปดาห์แรก จะพบว่าน้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วมาก ๆ และหลังจากนั้นน้ำหนักจะลดน้อยลง ในบางรายอาจะมีผื่นคีโตขึ้น ซึ่งจะเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังหาสมดุลให้กับตัวเอง

3. มีปริมาณคีโตนในกระแสเลือดเพิ่ม

โดยในการกินคีโตจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และจะช่วยเพิ่มปริมาณของคีโตนในเลือดแทน ซึ่งเมื่อมีการกินคีโตไปสักระยะหนึ่ง ร่างกายก็จะเริ่มทำการเผาผลาญไขมันและใช้คีโตนมาเป็นแหล่งพลังงานหลักแทน ทั้งนี้ก็สามารถตรวจหาค่าคีโตนในกระแสเลือดได้

4. ปริมาณคีโตนในลมปาก และปัสสาวะ

ในส่วนนี้สามารถตรวจสอบได้ด้วยการใช้เครื่องเป่าปาก เพื่อวัดระดับของคีโตน นอกจากนั้นก็จะมีแผ่นที่ใช้ในการตรวจคีโตนที่อยู่ในปัสสาวะได้ด้วย โดยการกินคีโตจะส่งผลทำให้กลิ่นปัสสาวะเปลี่ยนแปลงไป และจะมีกลิ่นที่แปลกไปจากเดิม แต่ทั้งนี้อาการที่ว่าก็จะเกิดขึ้นแค่ในช่วงแรกของการกินคีโตเท่านั้น 

5. ลดความอยากอาหาร

ในเรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัด แต่ได้มีการตั้งสมมติฐานเอาไว้ว่า การที่คีโตสามารถช่วยลดความอยากอาหารได้ก็มาจากการที่ปริมาณของโปรตีน ไขมัน และผักที่กินเข้าไปนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่มากขึ้น จึงสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนความหิวได้ อีกทั้งคีโตนอาจจะส่งผลต่อสมองที่สามารถสั่งการให้ลดความหิวลงได้ด้วย 


การตรวจว่าร่างกายเข้าคีโตสิส และการอ่านค่าคีโตน

การตรวจว่าร่างกายเข้าคีโตสิส และการอ่านค่าคีโตน

สำหรับคำถามที่ว่ารู้ได้ไงว่าเข้าคีโตแล้ว หรือสัญญาณที่บ่งบอกว่าอยู่ในภาวะคีโตสิส แล้วเป็นอย่างไรบ้าง ก็เป็นสิ่งที่คงจะได้ทำความเข้าใจกันมากขึ้นแล้วก่อนหน้านี้ ในส่วนนี้ก็จะช่วยอธิบายให้เข้าใจกันมากขึ้นในเรื่องของการตรวจหาค่าคีโตสิส และการอ่านค่าคีโตน โดยในการตรวจสามารถหาซื้อชุดตรวจได้ผ่านร้านขายยาหรือว่าโรงพยาบาลได้เลย ซึ่งวิธีการก็มีดังต่อไปนี้

  1. การตรวจผ่านทางปัสสาวะ เป็นวิธีการตรวจหาค่าคีโตคีสที่ง่ายและประหยัดเงินได้มากที่สุด ทั้งนี้ผลที่ได้ก็อาจจะไม่ได้มีความเที่ยงตรงมากขนาดนั้น แต่ถึงอย่างไรผลที่ได้ออกมาก็ยังพอให้สามารถคาดเดาปริมาณสารคีโตนที่อยู่ในร่างกายได้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน โดยการตรวจด้วยวิธีนี้จะเหมาะสมกับผู้ที่เพิ่งเริ่มกินคีโตไม่นาน ซึ่งระยะเวลาการตรวจก็ไม่นานใช้เวลาแค่ 1-2 นาทีเท่านั้นเอง
  2. การตรวจผ่านทางเลือด เป็นวิธีการตรวจที่ถือว่าเที่ยงตรงและให้ผลที่แม่นยำมากที่สุด เนื่องจากว่าสารคีโตนจะมีการถูกส่งมาผ่านทางกระแสเลือด จึงทำให้ควรวัดระดับคีโตนด้วยวิธีการนี้มากที่สุด ซึ่งวิธีการตรวจก็ไม่ยากเพียงแค่เอาเข็มเจาะไปที่ปลายนิ้วแล้วเอาเลือดหยดลงบนแผ่นวัดระดับก็จะสามารถทราบผลได้แล้ว
  3. การตรวจผ่านทางลมหายใจ เป็นวิธีการตรวจหาระดับคีโตนแบบใหม่มีล่าสุดที่มีไม่นานมานี้ โดยวิธีการนี้จะใช้เครื่อมือการเป่าลมหายใจเข้ามาใช้เพื่อวัดระดับคีโตนในร่างกาย เนื่องจากว่าเมื่อร่างกายเข้าสู่ช่วงภาวะคีโตลิส แล้วก็จะมีการปล่อยสารคีโตนออกมาผ่านลมหายใจ จึงทำให้สามารถวัดระดับคีโตนได้ด้วยวิธีการนี้ อย่างไรก็ตามวิธีการนี้จำเป็นต้องใชงบที่สูงหน่อยแต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะสามารถเก็บไว้ใช้งานได้อย่างยาวนาน

ในส่วนของเครื่องมือวัดคีโตนนั้นส่วนใหญ่แล้วก็ทำมาเพื่อผู้ป่วยเบาหวาน ที่จะให้มีการเช็กดูว่ามีระดับคีโตนที่สูงมากไปหรือไม่ โดยในตรวจระดับคีโตนจะมีก็ต่อเมื่อมีระดับน้ำตาลในร่างกายสูงกว่า 240-300 mg/L และมีอาการของ Diabetic ketoacidosis (DKA) หรือภาวะที่ผู้ป่วยมีน้ำตาลในเลือดสูง ทั้งนี้ หากว่าวัดค่าออกมาแล้วพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดสูงบวกกับระดับคีโตนสูงด้วย ก็อาจจะทำให้เสียชีวิตได้เลย เมื่อเป็นเช่นนี้จึงต้องรีบไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที ซึ่งค่าคีโตนที่เหมาะสมที่สุดต่อร่างกายก็คือ 0.5 mmol/L – 3.0 mmol/L เป็นค่าที่พอดีและช่วยให้การลดน้ำหนักด้วยการกินคีโตได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากที่สุดนั่นเอง

หากใครที่กำลังพิจารณาที่จะลดน้ำหนักโดยใช้วิธีการทำคีโต (Keto) ขอแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกระบวนการนี้ก่อนที่จะเริ่มต้น ซึ่งควรทราบว่าคีโตจะทำงานอย่างไร รู้จักกับอาหารคีโต เหมาะแก่ใครบ้าง รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือต้องรับประทานอาหารเสริมอื่น ๆ อยู่ ที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายและการลดน้ำหนักในระยะยาว ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำแนะนำการลดน้ำหนักที่เหมาะสมกับคุณเอง


อ้างอิง

บทความที่เกี่ยวข้อง

รีวิว Vilena ตัวช่วยเด็ดของคนอยากหุ่นสวย เร่งเผาผลาญไขมันยืนหนึ่ง
รีวิว Vilena ตัวช่วยเด็ดของคนอยากหุ่นสวย เร่งเผาผลาญไขมันยืนหนึ่ง

รีวิว Vilena ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมตัวดังบนโซเชียลของเด็ดและดี ที่ช่วยเผาผลาญไขมันได้นั้น จะมีสรรพคุณ วิธีการกินอย่างไร ที่จะทำให้พุงยุบไวมาดูกัน

รีวิว PRIMAYA S ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พร้อมเปลี่ยนหุ่นพังให้เป็นหุ่นปัง
รีวิว PRIMAYA S ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พร้อมเปลี่ยนหุ่นพังให้เป็นหุ่นปัง!

รีวิว PRIMAYA S ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พร้อมเปลี่ยนหุ่นพังให้เป็นหุ่นปัง! สิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพและเพิ่มความสวยงามของรูปร่างร่างกาย

รีวิว PRAVE S ผลิตภัณฑ์ช่วยดูแลรูปร่าง สารสกัดสมุนไพร ช่วยเบิร์นx2
รีวิว PRAVE S ผลิตภัณฑ์ช่วยดูแลรูปร่าง สารสกัดสมุนไพร ช่วยเบิร์นx2

รีวิว PRAVE S ตัวช่วยลดน้ำหนักที่สามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ลดความอยากอาหาร และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น