ลดน้ำหนัก 20 โล ใน 2 เดือน เป็นไปได้จริงหรือ?

ลดน้ำหนัก 20 กิโล

หัวข้อบทความ

หนึ่งในสาเหตุของโรคอ้วนหรือโรคร้ายแรงอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น ความดัน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต หรือโรคเกี่ยวกับอาการปวดเข่า ปวดขา ปวดเมื่อย เป็นต้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะเกิดจากการป่วยที่เป็นขั้นตอนมาจากการที่มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งระบบเผาผลาญที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพ ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เป็นโรคอ้วน มีไขมันส่วนที่ไม่ดีมาก ร่างกายไม่สามารถขจัดออกไปได้หมดโดยสอดคล้องกับระยะเวลาที่ผ่านมานาน ทำให้การลดน้ำหนัก ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน

สำหรับบางคนก็ลดน้ำหนักได้ง่าย บางคนก็ทำได้ยาก แต่แท้จริงแล้วก็มีเคล็ดลับต่าง ๆ มากมายที่จะช่วยให้การตั้งเป้าหมายลดน้ำหนักของคุณนั้นเป็นความจริง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายใช้อาหารเสริมลดน้ำหนัก หรือเคล็ดลับอื่ ๆ อีกมากมาย วันนี้เราจึงมีข้อมูลดี ๆ มาบอกต่อกันเกี่ยวกับความหมายของการลดน้ำหนัก เป้าหมายของการลดน้ำหนัก พร้อมทั้งเทคนิคที่จะทำให้คุณ ลดน้ำหนัก 20 กิโล ภายใน 2 เดือน ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดได้สรุปมาให้เข้าใจง่ายแล้วว่าคุณจะต้องทำอย่างไรบ้าง รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านกันได้ในบทความนี้


การลดน้ำหนักมีประโยชน์อย่างไร

ถ้าหากว่าจะพูดถึงข้อดีของการลดน้ำหนัก บอกเลยว่ามีมากมายเลยทีเดียว เชื่อหรือไม่ว่าครอบคลุมไปทุกเรื่องในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น รูปร่าง สุขภาพ ความเครียด จิตใจที่เข้มแข็ง พร้อมทั้งมีเป้าหมายในชีวิตมากขึ้นไม่ว่าคุณจะตั้งเป้าลดน้ำหนักภายใน 2 เดือนหรือกี่วันก็ตาม ซึ่งการลดน้ำหนักถ้าหากว่าจะพูดโดยตรงก็คือ เป็นการลดระดับไขมัน ระดับน้ำตาลในร่างกายให้ลดลง คงอยู่ในปริมาณที่ร่างกายต้องการ รวมทั้งไม่เกิดเป็นผลเสียต่อร่างกายนั่นเอง ดังนั้นแล้วอาการอื่น เช่น ระดับความดันก็จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งการลดน้ำหนักจะมีประโยชน์ที่สร้างความชัดเจนได้ดังต่อไปนี้

ลดน้ำหนัก 20 กิโล

คุณภาพชีวิตดี และมีความมั่นใจ 

น้ำหนักที่ลดลงจะส่งผลให้รูปร่างดีขึ้น มีความมั่นใจ เชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพบปะผู้คน รวมทั้งการใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายแบบมากขึ้นไปอีกด้วย อีกทั้งความเหนื่อยล้าหรือความเครียดก็จะน้อยลง พร้อมรู้สึกตัวทำอะไรได้อย่างกระฉับกระเฉง 

ลดความเสี่ยงและอาการของโรคอ้วน

ก่อนที่คุณจะกลายเป็น “โรคอ้วน” ก็ต้องลดน้ำหนักที่เกินจากค่ามาตรฐานออกไปเสียก่อน แน่นอนเลยว่าจะช่วยลดอาการของการเป็นโรคอ้วนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งใครที่เป็นโรคนี้แล้วมีอาการที่เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก หรือประจำเดือนผิดปกติก็จะบรรเทาลงได้ เพราะหลังจากการลดน้ำหนักให้ร่างกายจะทำงานได้อย่างสมดุลมากขึ้นนั่นเอง 

สุขภาพดีในระยะยาว

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ รวมทั้งหลอดเลือดตีบ นั่นก็คือ “โรคอ้วน” หรือ น้ำหนักตัวที่มากเกินไปจะทำให้ระบบภายในร่างกายทำงานไม่ปกติ อีกทั้งคนส่วนใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจกับโรคมะเร็งที่มากขึ้น ดังนั้นการลดน้ำหนักจึงส่งผลดีมากในเรื่องนี้ และอายุกับสุขภาพจะดีขึ้นมากในระยะยาวด้วยนั่นเอง 

อาการผิดปกติที่เคยเกิดขึ้นจะหายไป 

การลดน้ำหนัก จะเกิดผลดีต่อสุขภาพและร่างกายเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นช่วยลดอาการเหนื่อยง่าย, ปวดหลัง, ปวดข้อ ปวดเข่า, อาการแน่นหน้าอกจากโรคหัวใจ, เหงื่อออก, หายใจไม่อิ่ม, นอนกรน, ความผิดปกติเกี่ยวกับประจำเดือน, กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ รวมไปถึงโรคเบาหวานบางโรค หรืออาการบางอย่างอาจจะหายขาดไป แต่สำหรับบางรายก็สามารถมีโอกาสกลับมาเป็นได้อีกด้วยปัจจัยอื่นเช่นกัน 

การลดน้ำหนักแบบพอดีก็ดีต่อสุขภาพ 

อีกหนึ่งความรู้ที่ผิดเกี่ยวกับการลดน้ำหนักที่มากเกินไป อาจจะส่งผลเสียให้ร่างกายนั้นขาดสมดุลได้ สิ่งที่ควรจะทำก็คือ เมื่อเราลดน้ำหนักลงได้ในระดับหนึ่งไปแล้วนั้น ก็เพียงพอที่จะเกิดผลดีต่อสุขภาพเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นการมีสุขภาพดี ไม่จำเป็นต้องลดจนกระทั่งน้ำหนักเข้าเกณฑ์ปกติ ขอแค่ลดลงเพียง 5-6 กิโลกรัม ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้สุขภาพดีขึ้น เพราะมีการอ้างอิงว่า การลดน้ำหนักช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง

  • ลดมากกว่า 5 กิโลกรัม จะลดอัตราการเกิดโรคเบาหวานร้อยละ 50 
  • ลดมากกว่า 9 กิโลกรัม จะลดอัตราการเกิดมะเร็ง รวมทั้งโรคหัวใจร้อยละ 25 พร้อมทั้งลดอัตราการตายถึงร้อยละ 25 ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีอายุเพิ่มขึ้น 3-4 เดือนในทุกหนึ่งกิโลกรัมที่ลดด้วย 

แต่สำหรับท่านที่มีน้ำหนักมากแล้วยังไม่มีโรคประจำตัว อาจจะพบว่าเมื่อลดน้ำหนักลง อัตราการเกิดโรคหรือความเสี่ยงต่าง ๆ ก็จะลดลงไปด้วยเช่นกัน

ผลดีต่อสุขภาพ เมื่อน้ำหนักลดลงประมาณ 1 กิโลกรัม

สำหรับการลดน้ำหนักลงประมาณ 1 กิโลกรัม จะลดอัตราการตายร้อยละ 20 รวมทั้งลดอัตราการตายจากมะเร็งร้อยละ 37 นอกจากนั้นก็ยังลดอัตราการเกิดมะเร็งร้อยละ 53 ส่งผลให้ลดอัตราการตายจากโรคเบาหวานร้อยละ 44 ด้วย ที่สำคัญ โรคหัวใจก็ลดอัตราการตายได้ถึง 9 % เลยด้วย จะเห็นได้ว่าการลดน้ำหนักลงไปเพียง 1 กิโลกรัม ก็ทำให้คุณห่างไกลโรคร้ายมากขึ้น หรือคุณอาจใช้สูตรลดน้ำหนัก 5 กิโล 1 เดือนเพื่อให้เป้าหมายของคุณดูท้าทายมากยิ่งขึ้น และทำให้เห็นผลที่ชัดเจนมากขึ้นก็ได้เช่นกัน

ผลดีต่อผู้ป่วย เมื่อลดน้ำหนัก 

สำหรับผู้ป่วยจะรู้สึกดีขึ้น เมื่อน้ำหนักลดลงอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลอยู่ในระดับคงที่ พร้อมทั้งลดลงตามลำดับ เรื่องเกี่ยวกับความดันเลือดก็จะทำให้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน ไม่ว่าใครที่มีอาการป่วย การออกกำลังกายแต่พอควร รวมทั้งการลดน้ำหนักก็จะช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้นได้อย่างแน่นอน 

หลังจากที่ได้อ่านมาทั้งหมด เกี่ยวกับ ประโยชน์ของการลดน้ำหนัก ซึ่งมีข้อดีหลายข้อ แน่นอนเลยว่าจะทำให้ผู้ที่มีอาการป่วยของโรคอ้วน หรือโรคประจำตัวนั้นบรรเทาลง รวมทั้งอาการเหล่านั้นอาจจะหายขาดไปตลอดชีวิตเลยก็เป็นไปได้ อีกทั้งการลดน้ำหนักไม่จำเป็นต้องลดตามเป้า ขอแค่ลดลงมาอยู่ในระดับที่พอดี เท่านี้ก็น่าพอใจแล้วนั่นเอง แต่ทว่าก่อนที่จะลดน้ำหนักเราต้องตั้งเป้าหมายของการลดน้ำหนักให้ได้เสียก่อน เพราะถ้าไม่มีจุดหมายปลายทาง คุณเองนั่นแหละที่จะกลายเป็นคนที่ไม่มีวินัย และขาดความสม่ำเสมอ 


เป้าหมายของการลดน้ำหนักคืออะไร

การออกกำลังกาย ควรที่จะมีเป้าหมาย หรือทิศทางที่แน่นอนในกิจกรรมนี้ เพราะเป็นหนึ่งในแรงบัลดาลใจที่จะทำให้ผู้ที่ลดน้ำหนัก ามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างดี ซึ่งจะเรียกอีกอย่างก็ได้ว่าเราจะต้องคิดถึงว่าการออกกำลังกายของเรานั้น ทำไปเพื่ออะไร เพื่อใคร โดยพวกเราได้รวบรวมเป้าหมาย ที่ได้แยกเรื่องเหตุผลการลดน้ำหนัก หรือการออกกำลังกาย เอาไว้ให้ดังต่อไปนี้

ลดน้ำหนัก 20 กิโล

เป้าหมายเพื่อสุขภาพดีและร่างกายแข็งแรง

คนส่วนใหญ่ให้เหตุผล พร้อมเป้าหมายของการลดน้ำหนักอย่างจริงจังว่า เป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย รวมทั้งสุขภาพ โดยเป้าหมายอันยิ่งใหญ่นี้จะเป็นความคิดของผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน แต่อาจจะอยู่ในหมวดหมู่ของคนที่มีโรคประจำตัว ที่จะต้องทำทุกวิธีให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ โดยเหตุผลหลักอาจจะต้องการฟื้นฟูร่างกายที่ป่วยจากโรคภัยที่เป็นมีอาการประจำก็เป็นไปได้ 

บางครั้งคนในกลุ่มนี้ก็ต้องการเพียงการออกกำลังกายเบา ๆ เดิน วิ่งเหยาะๆ ประมาณ 40 นาที ถึง 1 ชั่วโมงเพื่อทำให้ร่างกายได้สูบฉีดพอที่จะรับมือในแต่ละวันได้อย่างดีขึ้น ซึ่งจะเน้นไปทางความแข็งแรงของร่างกาย และส่งผลดีต่อสุขภาพเป็นส่วนใหญ่

เป้าหมายเพื่อลดน้ำหนักอย่างจริงจัง

ค่อนข้างชัดเจนมากเลยทีเดียว สำหรับคนกลุ่มที่ต้องการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักอย่างจริงจัง เพราะพวกเขาจะมีการคาดหวังเรื่องการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก แน่นอนเลยว่าความมุ่งมั่นนี้จะทำให้พวกเขาประสบผลสำเร็จได้เร็วตามเป้าหมายยิ่งขึ้นด้วยนั่นเอง ซึ่งผู้ที่ตั้งเป้าหมายแบบนี้เอาไว้ก็คือ ผู้ที่เริ่มมีน้ำหนักตัวเกิน หรืออ้วนขึ้น จะเริ่มออกกำลังกายแบบจริงจัง มีการควบคุมอาหารแบบสุดโหดและเด็ดขาด ไม่ให้ไขมัน น้ำตาล เข้าสู่ร่างกาย นอกจากไขมันดีที่เผาผลาญได้ง่าย 

เพื่อการลดน้ำหนักอย่างจริงจังของคนมีเป้าหมายนี้ ควรทำทั้ง Cardio และ Weight Training เพราะทั้ง 2 กิจกรรมมีประโยชน์ในการเผาผลาญพลังงาน รวมไปถึงไขมันในร่างกาย พร้อมทั้งยังช่วยกระชับสัดส่วนได้ดีอีกด้วย แต่การออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงนี้ ควรมองหาวันพักผ่อนด้วยสัก 1-2 วันในสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู และการออกกำลังกายก็ควรทำอย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ 

เป้าหมายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อและซิกแพค

การออกกำลังกาย ของคนกลุ่มที่เตรียมสร้างกล้ามเนื้อหุ่นสวยเอาไว้โชว์ หรือ การสร้างซิกแพค นั่นเอง แน่นอนว่าวินัยในการออกกำลังกาย หรือการควบคุมน้ำหนัก จะมีเป้าหมายที่ชัดเจนและจริงจังมาก เพราะการสร้างกล้ามเนื้อที่สวยงามได้ จะต้องใช้ความอดทน การมีเป้าหมายเรื่องการออกกำลังกายอย่างชัดเจน โดยการทานอาหารจะเน้นไปที่โปรตีน ไขมันต่ำ เช่น อกไก่ ไข่ขาว เนื้อปลา หรือเวย์โปรตีน ในจำนวนที่ทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น สำหรับกลุ่มนี้จะลดไขมัน น้ำตาล เกลือ ให้มากที่สุด รวมไปถึงการจำกัดการทานผลิตภัณฑ์จากนมวัวด้วย 

อีกทั้งการฝึกกล้ามเนื้อ หรือการสร้างกล้ามเนื้อที่จะต้องทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะต้องมุ่งเน้นไปที่การทำ Weight Training เป็นหลัก โดยมีการกำหนดโปรแกรมอย่างชัดเจน โดยในส่วนนี้ค่อนข้างฝึกหนักมากเช่นกัน 

เป้าหมายอื่น ๆ

การลดน้ำหนัก หรือ การออกกำลังกาย ก็มีเป้าหมายอื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วย ตัวอย่างเช่น การชักชวนเพื่อนมาออกกำลังกาย เตะฟุตบอล เล่นกีฬาอื่น ๆ หรือสำหรับบางคนอาจจะไม่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ให้ชัดเจน เช่น การเล่นกีฬาตามวัย ตามอายุ เพื่อให้ร่างกายได้สูบฉีดเล็กน้อย แต่เมื่อถึงช่วงเวลาที่ไม่ต้องการออกกำลังกาย หรือลดน้ำหนัก ก็หยุดไปโดยที่ไม่ได้มีแผนอะไรที่สำคัญมากนักนั่นเอง 

นี่แหละคือ เป้าหมายในการออกกำลังกายหรือลดน้ำหนัก ที่จะช่วยทำให้คุณสามารถตอบกับตัวเองได้ว่า ที่ทำอยู่ ทำเพื่ออะไร แล้วจะสำเร็จเมื่อไหร่ มีหนทาง หรือช่องทางในการออกกำลังกายต่อไปหรือไม่ ? เพราะการมีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ว่าจะลดน้ำหนักลงให้ได้เท่านี้ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ยากพอสมควรที่คน ๆ หนึ่งจะทำได้ตามเป้าหมาย แต่ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น เชื่อเลยว่าคุณเองถ้าอยากลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ หรือลดอย่างจริงจังก็ทำได้เช่นกัน


เทคนิคการลดน้ำหนัก 20 โล และวิธีทำภายใน 2 เดือน

เมื่อใจของคุณคิดมาดีแล้วว่า “ฉันจะต้องลดน้ำหนักอย่างจริงจังสักที” วันนี้พวกเราก็ได้รวบรวมเคล็ดลับดี ๆ มานำเสนอ นั่นก็คือ การลดน้ำหนัก 20 โล และวิธีทำภายใน 2 เดือน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ท้าทายคุณมากที่สุด การลดน้ำหนักลงไป 20 กิโลกรัม ถือได้ว่าคุณได้ห่างไกลโรคร้ายหลายโรค อีกทั้งยังเหมือนยกภูเขาออกจากอก เพราะสำหรับคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ การลดได้ในเป้าหมายเท่านี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่ทว่าวิธีการจะโหดหรือจะชิลแค่ไหน ไปดูกันเลย

ลดน้ำหนัก 20 กิโล

1. การเลือกทานอาหาร 

วิธีที่จะทำให้คุณลดน้ำหนักอย่างจริงจังได้นั่นก็คือ การเลือกทานอาหาร หมายถึง การทานอาหารแบบ คีโตเจนิคไดเอท หรือจะเป็นแบบ Low Carb – High Fat (LCHF) ก็สามารถทำได้ นั่นก็คือการทานอาหารประเภทแป้งต่ำ ไขมันดีสูง โดยจะเป็นวิธีที่เห็นผลเร็วที่สุดและดีที่สุดด้วย แน่นอนว่าวิธีการแบบนี้ ดาราฮอลลีวูดมักใช้เพิ่ม-ลดน้ำหนักกันนั่นเอง เทคนิคง่าย ๆ ก็คือ การกินแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตให้ต่ำมาก เหลือเพียง 20 กรัมต่อวัน หรือข้าว 1 ถ้วยนั่นเอง นี่แหละจะทำให้ร่างกายน้ำหนักลดลงอย่างได้ผล ใครที่ต้องการลดความอ้วนแบบไม่ออกกําลังกายเพียงนำเทคนิคนี้ไปใช้ เชื่อได้เลยว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอน

แต่เชื่อเลยว่าหลาย ๆ คนยังไม่คุ้นชินกับการกินแบบนี้มากนัก ดังนั้นอาจจะใช้เป็นข้าวครึ่งถ้วยสัก 3 มื้อก่อน แล้วค่อยลดลงเรื่อย ๆ แต่ทว่าจะต้องลดหวาน ไม่กินน้ำตาล ไม่กินขนม จะทำให้ได้ผลรวดเร็วเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะของหวานหรือขนมนั้นเป็นศัตรูตัวร้ายที่ทำให้การลดน้ำหนักแบบนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่า

2. ทำ Intermittent Fasting หรือ IF

Intermittent Fasting หรือที่เรารู้จักกันในกลุ่มของคนลดน้ำหนักที่เรียกกันว่าการทำ IF นั่นเอง จะหมายถึงเป็นการกินสลับกับการหยุดกิน จะต้องเน้นย้ำมากว่าไม่ใช่การอดอาหาร แต่เลือกที่จะกิน พร้อมทั้งหยุดกินเป็นเวลา ซึ่งมีสูตรก็คือ 16/8 ชั่วโมง จะหมายความว่า 16 ชั่วโมงคือช่วงเวลาที่หยุดกิน เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้อย่างเต็มที่ ส่วนอีก 8 ชั่วโมงนั้นก็คือการกิน แต่ทว่าก็ต้องยึดหลักตามคีโตเจนิคไดเอท หรือจะเป็นแบบ Low Carb – High Fat (LCHF) เท่านั้น 

เทคนิคแนะนำเล็กน้อยของเรื่องนี้ก็คือ กินข้าวเช้าให้สายหน่อย ลืมกินข้าวเที่ยง แต่กินข้าวเย็นให้เร็วหน่อย นอนเร็วสัก 4 ทุ่ม เท่านี้ก็จะผ่านโปรแกรมการลดน้ำหนักแบบนี้อย่างไม่ยากนัก ที่สำคัญน้ำหนักตัวก็จะลดลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย สำหรับในช่วงที่หยุดกินเป็นเวลา 16 ชั่วโมงนั้น เมื่อหิวสามารถดื่มกาแฟดำ ย้ำว่าไม่ใส่นม หรือปรุงแต่งอื่นใด หรือ ครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรี่ได้ 

3. ห้ามกินจุบจิบ 

ขนมขบเคี้ยวหรือของหวานต่าง ๆ นั้นสำคัญมาก เพราะเป็นของว่างที่อันตรายสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะอันที่จริงแล้วอาหารมื้อหลักก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้ว ดังนั้นแล้วหากทานขนมอื่น ๆ จะทำให้ได้รับปริมาณแคลอรี่ที่เกินตัว อีกทั้งยังก่อให้เกิดโรคเบาหวานด้วย เพราะเมื่อไหร่ที่ร่างกายกินขนมจะผลิตอินซูลินออกมา ยิ่งเป็นขนมประเภทแป้ง ร่างกายก็จะดื้อ ลดน้ำหนักได้ยาก ควรจะมาเน้นโปรตีนให้เพียงพอดีกว่า ซึ่งโปรตีนที่ควรได้รับในแต่วัน เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อเป็ด อาหารทะเลต่าง ๆ และไข่นั่นเอง 

4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ควรออกกำลังกายเพิ่มเติม ด้วยการเล่น Cardio กับ Weight Training เพื่อให้ร่างกายได้มีการเผาผลาญใช้พลังงานที่ดีไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อจะดีกว่า แต่ทว่าการออกกำลังกายควบคู่กับการลดน้ำหนักก็มีข้อควรระวังก็คือ จะไม่แนะนำให้หักโหมหรือการออกกำลังกายอย่างหนัก แต่แนะนำว่าให้เล่นเพื่อร่างกายได้สูบฉีดเลือด พร้อมฝึกซ้อมกล้ามเนื้อให้แข็งแรงจะเป็นผลดีต่อสุขภาพมากกว่า 


ดังนั้นแล้วใครที่ตั้งเป้าหมาย หรือความมุ่งมั่นเอาไว้ 4 เทคนิคการ ลดน้ำหนัก 20 กิโล และวิธีทำภายใน 2 เดือน ถ้าหากว่าคุณเองทำตามทั้ง 4 ข้อนี้ได้อย่างเคร่งครัด รับรองเห็นผลลัพธ์อย่างแน่นอน ช่วยทำให้น้ำหนักของคุณลดลงไปได้มาก รวมทั้งมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือ เทคนิคที่คุณเองก็เริ่มต้นทำได้แบบง่าย ๆ ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าหลักสูตรราคาแพง หรือ ทานยาลดน้ำหนัก ซึ่งจะเป็นวิธีการที่จะทำให้คุณสุขภาพดีไปพร้อมกับรูปร่างที่ผอมเพรียวลงด้วยเช่นกัน 

การลดน้ำหนักอย่างที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ เราอาจจะลดไม่ถึงเกณฑ์ บางรายอาจจะทำได้ 1 ใน 4 ของเป้าหมาย ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน เพราะร่างกายของแต่ละคน การลดน้ำหนัก หรือ การเพิ่มน้ำหนัก มีเรื่องของการเผาผลาญที่ไม่เท่ากัน สุดท้ายนี้ก็ขอแนะนำกันเอาไว้ว่า เป้าหมายมีไว้ทำให้สำเร็จ บรรลุผลก็จริงอยู่ แต่เมื่อไหร่ที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้าสู่ระบบปกติเกี่ยวกับ การมีน้ำหนักตัวอยู่ในมาตรฐาน หรือมีสุขภาพที่แข็งแรง นี่แหละคือผลลัพธ์ที่แท้จริงที่คุณจะได้ ถึงแม้ว่า ลดน้ำหนัก 20 กิโล ภายใน 2 เดือน จะเกิดขึ้นจริงกับตัวคุณหรือไม่ ? แต่สิ่งที่คุณได้คือ เริ่มลดน้ำหนักอย่างจริงจังเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง


อ้างอิง

บทความที่เกี่ยวข้อง

รีวิว Vilena ตัวช่วยเด็ดของคนอยากหุ่นสวย เร่งเผาผลาญไขมันยืนหนึ่ง
รีวิว Vilena ตัวช่วยเด็ดของคนอยากหุ่นสวย เร่งเผาผลาญไขมันยืนหนึ่ง

รีวิว Vilena ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมตัวดังบนโซเชียลของเด็ดและดี ที่ช่วยเผาผลาญไขมันได้นั้น จะมีสรรพคุณ วิธีการกินอย่างไร ที่จะทำให้พุงยุบไวมาดูกัน

รีวิว PRIMAYA S ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พร้อมเปลี่ยนหุ่นพังให้เป็นหุ่นปัง
รีวิว PRIMAYA S ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พร้อมเปลี่ยนหุ่นพังให้เป็นหุ่นปัง!

รีวิว PRIMAYA S ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พร้อมเปลี่ยนหุ่นพังให้เป็นหุ่นปัง! สิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพและเพิ่มความสวยงามของรูปร่างร่างกาย

รีวิว PRAVE S ผลิตภัณฑ์ช่วยดูแลรูปร่าง สารสกัดสมุนไพร ช่วยเบิร์นx2
รีวิว PRAVE S ผลิตภัณฑ์ช่วยดูแลรูปร่าง สารสกัดสมุนไพร ช่วยเบิร์นx2

รีวิว PRAVE S ตัวช่วยลดน้ำหนักที่สามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ลดความอยากอาหาร และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น