คีโตกินผลไม้ได้ไหม ? แนะนำผลไม้สำหรับคนกินคีโต

หนึ่งในเทรนด์สุขภาพที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดี และเป็นที่สนใจของคนรักสุขภาพ คงหนีไม่พ้นกับการกินคีโต ที่เป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารที่คุณจะไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามใจปาก โดยจะต้องหลีกเลี่ยงการทานแป้ง และน้ำตาลให้ได้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ดี การกินคีโตนั้นมีข้อหลีกเลี่ยงอาหารอีกหลากหลายแบบ และมีข้อจำกัดด้านการรับประทานอาหารที่คุณจำเป็นต้องรู้ หากคุณสนใจอยากทานคีโต บทความนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึกกับข้อมูลที่ต้องน่ารู้เกี่ยวกับคีโต ไม่ว่าจะเป็น คีโตกินผลไม้ได้ไหม ? แนะนำผลไม้สำหรับคนกินคีโต และอื่น ๆ อีกมากมาย

คีโตกินผลไม้ได้ไหม ?

ก่อนที่จะไปลงลึกถึงเนื้อหาเกี่ยวกับข้อสงสัยที่ว่าคีโตกินผลไม้ได้ไหม ? แนะนำผลไม้สำหรับคนกินคีโต อยากจะพาทุกคนมารู้จักกับการทานคีโตสำหรับมือใหม่กันเสียก่อน ซึ่งการทานคีโต หรือคีโตเจนิก ไดเอต (Ketogenic diet) คือการทานอาหารโดยหลีกเลี่ยงการรับประทานแป้ง และน้ำตาลให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ร่างกายนำไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายมาใช้เป็นพลังงาน ยิ่งไขมันที่อยู่ในร่างกายถูกนำมาใช้งานมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ไขมันในร่างกายของคุณลดน้อยลง กระชับสัดส่วนได้ รวมไปถึงลดไขมันในเส้นเลือดป้องกันโรคแทรกซ้อนที่มีสาเหตุมาจากโรคอ้วนได้ 

เข้าสู่คำถามที่หลายคนข้องใจในการทานคีโตคือ สามารถรับประทานผลไม้ได้หรือไม่ คำตอบคือผู้ที่ทานคีโตสามารถที่จะรับประทานผลไม้ได้ เพียงแต่ต้องเลือกผัก และผลไม้ที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลต่ำ เพราะการทานคีโตนั้นมีการจำกัด และแบ่งสัดส่วนปริมาณสารอาหารที่คุณจะได้รับในแต่ละวันอย่างชัดเจนนั่นเอง

ผลไม้ มีประโยชน์ต่อคนกินคีโตอย่างไร

คาดว่าในตอนนี้หลายคนน่าจะเข้าใจวิธีการทานคีโตกันมากขึ้นบ้างแล้ว คีโตกินอะไรได้บ้าง การทานคีโตนั้นมีเงื่อนไขหลัก ๆ เพียงแค่การควบคุมปริมาณของคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลให้ต่ำมากที่สุดเท่านั้น หากคุณรู้จำนวนแคล และปริมาณสารอาหารของแต่ละมื้อเป็นอย่างดีก็ไม่มีข้อน่ากังวลแต่อย่างใด 

คำถามต่อมาที่ผู้ที่สนใจในการทานคีโตน่าจะอยากรู้เพิ่มเติมคือ ทานผลไม้สำคัญกับการทานคีโต แน่นอนว่าจุดเด่นของการทานคีโตเป็นการลดปริมาณสารอาหารบางประเภทที่ร่างกายต้องการลง เพื่อให้การทานคีโตไม่ทำให้คุณเสี่ยงต่อการเข้าสู่ภาวะขาดสารอาหาร การทานผลไม้นั้นจะช่วยแก้ไขปัญหาไปได้มาก เนื่องจากในผลไม้นั้นมีวิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นกับร่างกาย คุณสามารถที่จะรับประทานผลไม้ได้หลากหลายชนิด แต่สิ่งเดียวที่คุณจะต้องมั่นใจคือ ปริมาณคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลในผลไม้ชนิดนั้นไม่ได้มีปริมาณมาก และเสี่ยงต่อการทำลายขั้นตอนการทานคีโต ใครที่ไม่รู้ว่าจะเลือกรับประทานผลไม้ชนิดใดดี และอยากได้ผลไม้ไว้ทานเล่นช่วงที่ทานคีโต ในเนื้อหาส่วนถัดไปมีการรวบรวมผลไม้สำหรับผู้ที่กินคีโตไว้แล้วเพื่อคุณ

แนะนำผลไม้สำหรับคนกินคีโต

เมื่อผู้อ่านได้เข้าใจ และคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับคีโตกินผลไม้ได้ไหม ?  แนะนำผลไม้สำหรับคนกินคีโต ในเนื้อหาส่วนนี้จะเป็นการแนะนำผลไม้คีโตที่กินได้ เพื่อให้ในแต่ละมื้อของคุณมีตัวเลือกในการรับประทานอาหารมากยิ่งขึ้น แต่ผลไม้ที่สามารถทานได้นั้น จำเป็นที่จะต้องเป็นผลไม้ที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลต่ำ เพื่อไม่ให้ขัดขวางกระบวนการคีโตซิส ผลไม้ที่เหมาะสำหรับการกินคีโตนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปติดตามเนื้อหาที่นำมาฝากกันได้เลย ดังนี้ 

• ชมพู่

ผลไม้ที่หาซื้อได้ง่าย และทานได้บ่อย เพราะชมพู่ในปริมาณ 100 กรัมนั้นให้ปริมาณพลังงานเพียงแค่ 25 แคลอรี และยังมีคาร์โบไฮเดรต 5.7 กรัมเพียงเท่านั้น การกินคีโตอาจจะทำให้คุณรู้สึกหิวได้อยู่บ่อย ๆ คุณสามารถที่จะหั่นชมพู่เก็บไว้ในตู้เย็น และรับประทานเมื่อท้องว่างได้ตลอดทั้งวัน ด้วยน้ำที่อยู่ในชมพู่ และสัมผัสกรอบนุ่ม ทำให้นี่เป็นผลไม้อันดับต้น ๆ ที่คนทานคีโตไม่ควรพลาด 

• สตรอว์เบอร์รี

สตรอว์เบอร์รี หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รีทั้งหมด จัดได้ว่าเป็นผลไม้ที่คนทานคีโตต้องซื้อพกติดไว้ในตู้เย็นอยู่เสมอ ๆ เพราะนอกจากจะให้พลังงานไม่สูงแล้ว ผลไม้ประเภทนี้ยังให้ทั้งวิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย อย่างในสตอร์เบอร์รีที่มีทั้งวิตามินเอ, วิตามินบี และยังมีวิตามินซีสูงมาก ๆ ในขณะเดียวกันสตรอว์เบอร์รี 100 กรัม มีปริมาณแคลอรีเพียง 49 แคลอรี , คาร์โบไฮเดรต 7.7 กรัม และมีน้ำตาล 4.9 กรัม

• มะเฟือง 

ผลไม้ทางเลือกถัดมาสำหรับผู้ทานคีโตคือ มะเฟือง ที่ในปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 40 แคลอรี และมีสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรต 8 กรัม และน้ำตาล 4.7 กรัม ด้วยรสชาติที่มั้งหวาน และเปรี้ยว ทำให้มะเฟืองเป็นผลไม้ที่ทานง่าย เหมาะสำหรับผู้คนทุกเพศ และทุกวัย นอกจากนี้มะเฟืองยังมีวิตามินซีสูงมากเป็นพิเศษ ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้, ช่วยกู้ผิวคล้ำ ปรับผิวให้ผิวขาวกระจ่างใส และยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วย 

• อะโวคาโด

นี่เป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพอย่างมาก นอกจากจะเป็นผลไม้ที่สามารถทานเล่นได้แล้ว ยังเป็นผลไม้ที่สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารได้อีกด้วย อะโวคาโดในปริมาณ 100 กรัม มีปริมาณแคลอรีเพียง 160 แคลอรีเท่านั้น และยังมีคาร์โบไฮเดรต 8.5 กรัม และน้ำตาล 0.7 กรัม อะโวคาโดยังเป็นผลไม้ที่มีวิตามิน และแร่ธาตุสำคัญอื่น ๆ อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซีที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และบูสผิวให้ขาวกระจ่างอย่างเป็นธรรมชาติ, วิตามินบี ที่แก้ปัญหาโรคเหน็บชา, วิตามินเค ป้องกันการแข็งตัวของเลือด หรือจะเป็นวิตามินอีที่จะช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดริ้วรอยร่องเบา ๆ ได้

• แอปเปิลเขียว 

นอกจากจุดเด่นของแอปเปิลเขียวที่จะมีจำนวนไฟเบอร์เยอะมาก ๆ แล้ว แน่นอนว่าผลไม้ชนิดนี้จะช่วยทำให้ขับถ่ายง่าย และยังเสริมระบบการขับถ่ายให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แอปเปิลเขียวยังมีจำนวนแป้งน้อยกว่าแอปเปิลแดง พร้อมกับให้พลังงานที่ไม่สูงมาก เพราะในปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 50 แคลอรี และมีคาร์โบไฮเดรต 13 กรัม น้ำตาล 9.5 กรัม

ใครไม่ควรทานคีโต

การทานคีโตนั้นช่วยในเรื่องการลดน้ำหนัก, ควบคุมทั้งปริมาณคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาล รวมถึงไขมันในเส้นเลือด อีกทั้งยังช่วยส่งผลในด้านจิตใจที่จะทำให้คุณรู้สึกปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย อย่างไรก็ดี การทานคีโตก็ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน เพราะมีบางกลุ่มคนที่ร่างกายอาจไม่ได้แข็งแรงมากนัก กลุ่มคนที่ต้องกินยาหรืออาหารเสริม ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้จากการลดปริมาณน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรต จะมีใครไม่ควรทานคีโต ไปติดตามกันต่อได้เลย ดังนี้ 

• ผู้หญิงที่ต้องให้นมบุตร 
• ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคความดันโลหิต 
• ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคถุงน้ำดี 
• ผู้ที่เคยมีประวัติในการผ่าตัดลดความอ้วน 
• ผู้ที่มีอาการแพ้ตัวยา Insulin, Glinides และ Sulphonylureas

ใครที่กำลังสนใจอยากกินคีโตคาดว่าบทความชิ้นนี้จะทำให้คุณกระจ่าง และเห็นลู่ทางในการกินคีโตได้ง่ายขึ้น ถ้าหนึ่งในสิ่งที่คุณเคยสงสัยคือ คีโตกินผลไม้ได้ไหม ? แนะนำผลไม้สำหรับคนกินคีโต ในบทความชิ้นนี้ได้ทำการตอบทุกคำถาม และตีประเด็นผลไม้คีโตที่กินได้ให้กระจ่างด้วยการแนะนำผลไม้ที่สายคีโตต้องจดลิสต์ผลไม้ไปซื้อมาไว้ตุนในตู้เย็น นอกจากจะให้พลังงานไม่สูงมาก และยังเน้นผลไม้ที่ให้วิตามินสูง ดีต่อทั้งการทำคีโต และสุขภาพระยะยาวอีกด้วย 

อ้างอิง

• ผลไม้ชาวคีโตกินอะไรได้บ้าง? รวมผลไม้ที่ดีต่อคนลดน้ำหนัก. https://www.healthyandme.co/blogs/keto-fruit