การดำเนินชีวิตในยุคสมัยใหม่นี้มีปัญหาด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอ้วนเป็นปัญหาหลักที่ส่งผลต่อจำนวนมากของประชากรทั่วโลก [1] ผู้คนเริ่มมองหาวิธีการลดน้ำหนักอย่างหลากหลาย ทำให้เกิดความสนใจในอาหารส่งเสริมการลดน้ำหนักและอาหารเสริมลดความอ้วน แต่ทั้งสองสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึง ความแตกต่างระหว่าง อาหารลดน้ำหนัก และอาหารเสริมลดความอ้วน จะเป็นอย่างไร ไปติดตามกัน
อาหารลดน้ำหนัก
อาหารลดน้ำหนัก หมายถึง อาหารธรรมชาติที่มีสารอาหารบางอย่างอยู่ในปริมาณมาก และมีไขมัน น้ำตาลที่ไม่ดีน้อย โดยพื้นฐานแล้วเป็นอาหารที่ไม่ขัดสี มีแคลอรีต่ำ แต่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง [2] ความสำคัญและประโยชน์ของอาหารเหล่านี้อยู่ที่ช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนัก โดยไม่ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น
องค์ประกอบทางโภชนาการของอาหารคนลดน้ำหนัก มักจะประกอบไปด้วย ไฟเบอร์สูง เป็นโปรตีนไม่ติดมัน มีน้ำตาลน้อยที่สุด และมีวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่ดี ซึ่งประโยชน์ของพวกมันมีมากกว่าช่วยในการควบคุมการลดน้ำหนัก เพราะยังส่งเสริมสุขภาพโดยรวม ผ่านการย่อยอาหารที่ดีขึ้น ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ ลดความอยากอาหาร และดีต่อสุขภาพร่างกาย
ตัวอย่างอาหารลดน้ำหนักที่จำเป็นต่อร่างกาย
- โปรตีนไม่ติดมัน : อกไก่ ไก่งวง เต้าหู้ ไข่ต้มลดน้ำหนัก และปลา เป็นแหล่งโปรตีนไร้มันที่ยอดเยี่ยม การบริโภคโปรตีนเหล่านี้สามารถเพิ่มความอิ่ม และมีปริมาณแคลอรีโดยรวมค่อนข้างน้อย
- ผักและผลไม้ที่อุดมด้วยไฟเบอร์ : ผลไม้อย่าง เบอร์รี่ แอปเปิล ผักใบเขียว ฟักทองลดน้ำหนัก และแครอท มีปริมาณไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มไว ง่ายต่อการย่อย และนำไปสู่การลดน้ำหนักได้
- โฮลเกรน : ธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง และควินัว ให้พลังงาน ไฟเบอร์ และสารอาหารที่จำเป็นต่าง ๆ สามารถช่วยควบคุมน้ำหนักโดยลดความหิว ปรับปรุงสุขภาพทางเดินอาหาร และช่วยในการขับถ่าย
- ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ : อะโวคาโด มะกอก และถั่วต่าง ๆ เป็นไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย สุขภาพหัวใจ และยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย
อาหารเหล่านี้มักจะมีเส้นใยและโปรตีนสูงแต่มีแคลอรีต่ำ [3] ซึ่งอาหารที่มีเส้นใยสูงอย่างผักผลไม้ช่วยลดน้ำหนักนั้นมีประโยชน์ในการส่งเสริมความรู้สึกของความอิ่ม ส่วนโปรตีนนั้นให้พลังงานที่จำเป็นและช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ
อาหารเสริมลดความอ้วน
ในทางกลับกันอาหารเสริมลดความอ้วนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดน้ำหนัก ซึ่งอาหารเสริมเหล่านี้มักจะมีส่วนผสมหรือสารสกัด เช่น สารสกัดจากสมุนไพร วิตามิน แร่ธาตุ หรือสารสังเคราะห์อื่น ๆ ที่ช่วยให้สามารถลดน้ำหนักได้ ผ่านกลไกที่แตกต่างกัน สารสกัดบางอย่างช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางอย่างก็ช่วยควบคุมความอยากอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่ม หรือยับยั้งการดูดซึมไขมันภายในร่างกาย เรียกได้ว่าเป็นทริคสำหรับคนอยากลดน้ำหนักแบบเห็นผลได้ชัดแต่ไม่อันตราย [4]
ตัวอย่างส่วนผสมในอาหารเสริมลดความอ้วนที่ได้รับความนิยม
- สารสกัดจากเมล็ดกาแฟ : เชื่อว่าสารสกัดจากเมล็ดกาแฟลดน้ำหนักนี้ส่งผลต่อน้ำตาลในเลือด และช่วยยังเร่งการเผาผลาญไขมัน ดังนั้นจึงมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก [5]
- สารสกัดจากส้มแขก : สารสกัดจากผลไม้เมืองร้อนนี้ได้รับความนิยมในผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักอย่างมาก เนื่องจากมีศักยภาพในการยับยั้งและการสร้างไขมัน ทั้งยังช่วยลดความอยากอาหารได้ดี
- Conjugated Linoleic Acid : CLA เป็นกรดไขมันจำเป็นชนิดหนึ่งที่เชื่อกันว่าทำงาน โดยช่วยลดความอยากอาหาร กระตุ้นการเผาผลาญ และกระตุ้นการสลายไขมันในร่างกาย
แม้สารสกัดเหล่านี้จะได้รับความนิยม แต่สิ่งสำคัญก่อนเลือกทานอาหารเสริมลดน้ำหนัก ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นด้วย ซึ่งมีตั้งแต่อาการที่ไม่รุนแรง เช่น คลื่นไส้หรือท้องผูก ไปจนถึงอาการรุนแรง เช่น ส่งผลเสียต่อสุขภาพ หรือปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างอาหารลดน้ำหนักและอาหารเสริมลดความอ้วน
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างอาหารลดน้ำหนักและอาหารเสริมลดความอ้วนก็คือ การให้ประโยชน์ต่อร่างกายที่ต่างกัน ซึ่งอาหารลดน้ำหนักจะให้ประโยชน์ทางโภชนาการอย่างครอบคลุม มีทั้งวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และใยอาหาร ซึ่งมีประโยชน์ต่อการรักษาการทำงานของร่างกายที่เหมาะสม และส่งเสริมสุขภาพโดยรวม ในขณะที่อาหารเสริมลดความอ้วนนั้นมีเป้าหมายหลักในการทาน เพื่อช่วยลดน้ำหนัก อาจไม่ได้ให้คุณค่าทางโภชนาการ แม้ว่าจะมีส่วนผสมเฉพาะที่ช่วยในการลดน้ำหนัก แต่ก็ไม่ได้ให้สารอาหารครบถ้วน
นอกจากนี้ ในขณะที่คนส่วนใหญ่สามารถบริโภคเมนูอาหารควบคุมน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย ปราศจากผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย แต่อาหารเสริมลดความอ้วนอาจมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ และไม่เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะในเด็ก สตรีที่กำลังตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว [6]
คำแนะนำในการเลือกรับประทาน
การเลือกระหว่างอาหารลดน้ำหนักและอาหารเสริมลดความอ้วน ควรพิจารณาจากสถานะสุขภาพ ความต้องการ และเป้าหมายของแต่ละบุคคล อาหารลดน้ำหนักเป็นอาหารที่ได้จากธรรมชาติ มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งจะช่วยจัดการควบคุมน้ำหนักได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยการเลือกบริโภคอาหารที่สมดุล มีคุณค่าทางโภชนาการ และให้พลังงานที่เพียงพอต่อร่างกายในแต่ละวัน แต่ละคนสามารถปรับเปลี่ยนนิสัยการกิน เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นได้
ในขณะที่อาหารเสริมสำหรับการลดความอ้วนนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นโดยอุตสาหกรรมที่มีส่วนผสมบางอย่างที่มุ่งเน้นส่งเสริมการลดน้ำหนักมากกว่า และไม่ได้เป็นแหล่งของสารอาหารที่ครบถ้วน แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกรับประทานอาหารลดน้ำหนักหรืออาหารเสริมลดความอ้วน แนะนำให้คุณให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารที่สมดุล เสริมด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ หากอยากทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อลดน้ำหนัก ควรพิจารณาเป็นทางเลือกสุดท้าย และก่อนทานก็ควรได้รับคำแนะนำหรือปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ [7]
บทสรุป
เราสามารถสรุปได้ว่า อาหารลดน้ำหนักและอาหารเสริมลดความอ้วนนั้น แตกต่างกันทั้งในเชิงธรรมชาติของรูปแบบอาหาร โภชนาการ ลักษณะการที่ร่างกายนำไปใช้ แม้ว่าทั้งอาหารลดน้ำหนักและอาหารเสริมลดความอ้วน จะมีส่วนช่วยควบคุมในการลดน้ำหนัก แต่วิธีการ ประโยชน์ และความเสี่ยงของการเลือกรับประทานก็แตกต่างกันอย่างมาก [8] อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า วิธีการลดน้ำหนักที่สมดุล ควรเลือกทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดี ดูแลร่างกายทั้งภายนอกและภายใน เป็นวิธีที่ยั่งยืนและปลอดภัยที่สุดเสมอ
อ้างอิง
[1] WHO | Obesity and overweight. WHO. (2018). https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/obesity-and-overweight
[2] American Heart Association | Healthy Eating. AHA. (2023). https://www.heart.org/en/healthy-living/healthy-eating
[3] Slavin, J. (2005). Dietary fiber and body weight. Nutrition, 21(3), 411–418.
[4] Nutrition.gov. (2021). Dietary Supplements for Weight Loss. U.S. Department of Agriculture.
[5] Onakpoya, I., Terry, R., Ernst, E. (2011). The use of green coffee extract as a weight loss supplement: A systematic review and meta-analysis of randomised clinical trials. Gastroenterology Research and Practice, 2011.
[6] National Center for Complementary and Integrative Health. Using Dietary Supplements Wisely. NCCIH. (2023). https://www.nccih.nih.gov/health/using–wisely
[7] LeBlanc, E., O’Connor, E., Whitlock, E.P., Patnode, C., & Kapka, T. (2011). Effectiveness of primary care-relevant treatments for obesity in adults: a systematic evidence review for the U.S. Preventive Services Task Force. Annals of Internal Medicine, 155(7), 434-447.
[8] Vitamins Minerals and Supplements: Do You Need to Take Them? (2021). https://www.eatright.org/food/vitamins-and-supplements/types-of-vitamins-and-nutrients/food-vs-supplements